องค์ความรู้
บทบาทครูโค้ชสไตล์ครูเก๋
มาดูกันว่า “ครูเก๋” นิษฐา มิ่งมงคลรัศมี ทำหน้าที่เป็นครูโค้ชอย่างไร ในกระบวนการเรียนการสอนที่ใช้การเล่นซึ่งเป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้ไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ
บทบาทครูโค้ชสไตล์ครูเก๋ในกระบวนการสอน
.
ก่อนการเรียนรู้
- ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ของเด็ก
- ทำความเข้าใจเนื้อหาที่ต้องการสอนและวิธีการเรียนรู้ของเด็ก
- ออกแบบการสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งเนื้อหาและทักษะที่ต้องการให้ผู้เรียนได้รับ
- ออกแบบวิธีการประเมิน เพื่อตรวจสอบการเรียนรู้ของเด็ก
ขณะทำการเรียนรู้
- มอบภารกิจสำรวจสภาพแวดล้อมโรงเรียน
- ครูทำชุดคำถาม เพื่อทำให้เด็กมีเป้าหมายในการสังเกต
- ฝึกให้เด็กมีทักษะการสังเกตควบคู่ไปกับการบันทึกสภาพอากาศแต่ละวัน
- เด็กเกิดคลังคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ เช่น เมฆมาก อบอ้าว และชื้น เป็นต้น
- เด็กเกิดความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและสามารถเปรียบเทียบสิ่งที่แตกต่างในแต่ละวันได้
- ครูให้โจทย์ เพิ่มความท้าทาย ให้เหมาะกับ Learning Ability ของผู้เรียน
- พาเด็กเรียนรู้ด้วยการเล่น ลงมือทำ
- ให้โจทย์ที่เด็กได้ใช้ความรู้และทักษะซึ่งเกิดจากการสังเกตมาแก้ปัญหา เช่น สร้างเมืองดินที่สามารถกักเก็บน้ำได้ในพื้นที่ที่เป็นดินทราย
- ให้โจทย์ที่มีความท้าทายและซับซ้อนอย่างเป็นลำดับ เช่น นำวัสดุทางธรรมชาติที่ตกตามพื้นมาทำมันดาล่า การประดิษฐ์ของเล่นฤดูฝน และการประดิษฐ์ของเล่นฤดูหนาว ตามลำดับ
- ครูสังเกต บันทึก และประเมินการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งตอนเก็บวัสดุ การประดิษฐ์ของเล่น
- ครูคอยเสริม สนับสนุนไม่ให้เด็กท้อ จากความท้าทายในกระบวนการเรียนรู้
- เช็คความเข้าใจและวิธีคิดของเด็ก
- เข้าไปสนทนากับเด็ก เพื่อเช็คความเข้าใจเด็กหลังจากมอบโจทย์ให้แล้ว
- ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้เด็ก แก้ปัญหาด้วยตนเอง และเพิ่มความท้าทายในการเรียนรู้ของเด็ก
- จัดทำพื้นที่เรียกว่า “Maker space”
- ทำให้เด็กเห็นวัสดุที่เก็บมาทั้งหมด และเกิดการตกผลึกทางความคิดในการสร้างสิ่งประดิษฐ์และกระบวนการเล่น
- ครูตรวจสอบ (Recheck) ความเข้าใจเด็กด้วยคำถามอีกครั้ง
- เด็กเกิดการทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือกัน และเป็นพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์
- สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางความคิด
- ให้เด็กทดลองเล่นของเล่นของตนเอง ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้จากความผิดพลาดและการสอนซึ่งกันและกันระหว่างผู้เรียน
- ให้เด็กนำเสนอผลงานของตนเอง เด็กสามารถอธิบายสิ่งที่ตัวเองเคิด สิ่งที่เรียนรู้ ให้เพื่อนเข้าใจได้
- ครูสังเกต บันทึก และประเมินการเรียนรู้ของเด็ก ขณะทำการทดลองเล่น
หลังการเรียนรู้
- ครูทบทวนการเรียนรู้ของตัวเอง
- มีการประชุมเพื่อทบทวนหลังปฎิบัติงาน (After Action Review: AAR) เพื่อพัฒนาแผนการสอนในเทอมถัดไป
.
จากความรู้สู่การปฏิบัติ
.
จากเรื่องเล่าของ “ครูเก๋” นิษฐา มิ่งมงคลรัศมี ที่ใช้การเล่นซึ่งเป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้มาออกแบบกระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้เด็ก ๆ ไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ หากเชื่อมโยงกับสาระในหนังสือ “ครูเพื่อศิษย์ สร้างการเรียนรู้สู่ระดับเชื่อมโยง” โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช แปลและเรียบเรียงไว้ จะเห็นบทบาทครูที่เชื่อมโยงใน 2 บทอย่างชัดเจน คือ บทที่ 3 ปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ระดับสูง และ บทที่ 7 เรียนรู้ระดับเชื่อมโยง
.
จากเนื้อหา บทที่ 3 ปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ระดับสูง ระบุว่า เด็กมีธรรมชาติชอบความท้าทาย ยินดีทำงานหนักเพื่อความสำเร็จในการเรียนซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต โดยความท้าทายนั้นต้องพอดี ไม่ง่ายเกินไปจนน่าเบื่อ และไม่ยากเกินไปจนท้อถอย โดยครูต้องหนุนเสริม ให้กำลังใจผู้เรียนสู้จนสำเร็จ เป็นการช่วยฝึกความมุ่งมั่นและมุมานะ (Grit) ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำหรับชีวิตที่จะประสบความสำเร็จ
ครูต้องจัดการความท้าทายเป็น ต้องปรับตามบริบทตามแต่ละสถานการณ์
.
ครูเก๋ ทำอย่างไรเพื่อปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ของเด็กสู่ระดับสูง
.
- ช่วยให้นักเรียนสนุกไปกับความท้าทายในการเรียน
เป็นจุดเด่นของกระบวนการเล่นในธรรมชาติ ครูเก๋จะค่อย ๆ ใส่ความท้าทายเข้าไปในกระบวนการ เรียนรู้ทั้งในช่วงสังเกตสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน และการมอบโจทย์สร้างสิ่งประดิษฐ์-ของเล่นทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว โดยคำนึงถึงความรู้สะสมเดิมที่ผู้เรียนมีอยู่ด้วย เช่น การให้โจทย์สร้างเมืองดินที่สามารถกักเก็บน้ำได้ในพื้นที่ที่เป็นดินทราย ซึ่งเด็กจะได้ใช้ความรู้ที่ได้จากการสังเกตลักษณะดินมาแก้ไขปัญหาโจทย์นี้ หรือจะเป็นการสร้างของเล่นฤดูหนาวที่เด็ก ๆ ต้องมีกระบวนการคิด เปรียบเทียบคุณสมบัติของวัสดุที่จะนำมาใช้ และต้องแก้ปัญหาเนื่องจากวัสดุจากธรรมชาติที่เคยใช้งานได้ในหน้าฝนมีคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงไปในฤดูหนาว เป็นต้น
- ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ชัด
อีกหนึ่งจุดแข็งของกระบวนการ เนื่องจากหน่วยการเรียนนี้ ครูมีเป้าหมายชัดเจน คือ เด็กต้องเข้าใจและเกิดความรู้ด้วยตัวเอง โดยมีประเด็นเรียนรู้หลัก คือ “การเรียนรู้ธรรมชาติ” และ “ภาษาที่มาจากกระบวนการเรียนนรู้” โดยระหว่างกระบวนการมีบันทึกการเรียนรู้ (Documentation) ช่วยประเมินว่าผู้เรียนไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
- สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน
โจทย์สร้างเมืองดิน, การสร้างพื้นที่ให้เด็กได้ลงมือทำของเล่น (Maker space) การเปิดพื้นที่ให้เด็กได้ทดลองเล่นของเล่นที่ตัวเองลงมือทำและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เหล่านี้คือกระบวนการที่ ครูเก๋ พยายามสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้มีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างนักเรียน ที่ทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน และมีข้อตกลงร่วมกัน บรรยากาศการเรียนแบบนี้นำไปสู่การที่ผู้เรียนเกิดการสอนกันเอง และนำไปสู่การเรียนระดับลึกได้
- ให้คำแนะนำป้อนกลับ (Feedback) ที่ดี
เกิดขึ้นตลอดกระบวนการเรียนรู้ หลังจากกระตุ้นให้เด็กเกิดการลงมือทำแล้ว ครูจะคอยสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นใช้การพูดคุยกับเด็กแบบสุนทรียสนทนา (Dialogue) ให้เด็กเกิดการคิด วิเคราะห์ เพื่อกระตุ้นกระบวนการคิดของเด็ก
.
.
จากเนื้อหา บทที่ 7 เรียนรู้ระดับเชื่อมโยง ระบุว่า การเรียนรู้ระดับเชื่อมโยง คือ การเรียนรู้สู่การเป็น “ผู้ลงมือทำ (Agent)” ครูจึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนให้นักเรียนเป็น “ผู้กระทำ” โดยการชักชวนนักเรียนตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ที่มีความหมายในมุมมองของเด็ก ทำหน้าที่สังเกตุการณ์และจุดประกายแรงบันดาลใจสู่การลงมือทำเพื่อการเรียนรู้ และสังเกตความก้าวหน้าของศิษย์ แล้วใคร่ครวญสะท้อนคิดเพื่อหาวิธีทำหน้าที่ครูที่ดีมีผลกระทบสูงยิ่งขึ้นต่อผลลัพธ์การเรียนรู้
.
ครูเก๋ ทำอย่างไรเพื่อให้เด็ก ๆ เกิดการเรียนรู้ระดับเชื่อมโยง
.
- เข้าใจวิธีการเรียนรู้ของเด็ก และให้เด็กเลือกวิธีการเรียนรู้ การแก้ปัญหา ที่เหมาะกับตัวเอง
ผ่านการสำรวจ การเล่น และการประดิษฐ์
- ให้เด็กเกิดการค้นคว้าและผลิต
เป็นการเปลี่ยนบทบาทให้เด็กลงมือทำ เพื่อสร้างความรู้ ไม่ใช่รอรับความรู้ นอกจากนี้นักเรียนยังได้ฝึกการทำงานเป็นทีมและทักษะด้านอื่น ๆ อีกด้วย
- ให้เด็กเริ่มเรียนรู้จากสิ่งที่แตกต่างจากความรู้เดิมของเด็กเพียงเล็กน้อย
ผ่านกระบวนการสำรวจสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน
- ฝึกทักษะให้เด็กมองเห็นหรือเข้าใจความเหมือน หรือความคล้ายคลึงของกิจกรรม
ผ่านกระบวนการประดิษฐ์ของเล่นในฤดูฝน และฤดูหนาว ทำให้เด็กเข้าใจแนวคิด (Concept) เชื่อมโยงสู่การแก้ไขปัญหา
- ให้คำแนะนำป้อนกลับที่ช่วยยกระดับการเรียนรู้
ด้วยรูปแบบการใช้คำถามจากสิ่งที่เด็กสะท้อนระหว่างสนทนา เพื่อย้ำเป้าหมายของงาน บอกความก้าวหน้าและสิ่งที่ต้องปรับปรุง รวมถึงชวนทำความเข้าใจถึงวิธีการที่เด็กใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้
- สังเกตการณ์และจุดประกายแรงบันดาลใจสู่การลงมือทำ
ผ่านการสังเกต บันทึก และประเมินการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งตอนเก็บวัสดุ การประดิษฐ์ของเล่น และการทดลองเล่น พร้อมกาหนุนเสริมกำลังใจไม่ให้เด็กท้อระหว่างกระบวนการเรียนรู้ รวมทั้งการใช้บทสนทนาชวนคิดเพื่อให้กระตุ้นให้เด็กเกิดการคิดต่อ
เรียบเรียงข้อมูลจาก
.
โครงการครูเพื่อศิษย์สร้างการเรียนรู้สู่ระดับเชื่อมโยงออนไลน์ ครั้งที่ 3
ครูต้นเรื่อง : ครูนิษฐา มิ่งมงคลรัศมี (ครูเก๋)
โรงเรียนรุ่งอรุณ
สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 วิชาโครงงานบูรณาการ
